วิธีการเลือกซื้ออาหารกระป๋องให้ได้ประโยชน์สูงสุด

 วิธีการเลือกซื้ออาหารกระป๋อง

                  เราควรเลือกซื้ออาหารกระป๋องที่มีเลข อย. ตรวจเช็กบรรจุภัณฑ์ต้องไม่มีรอยบุบ ไม่เป็นสนิม และควรตรวจสอบวันที่ผลิตและวันหมดอายุที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์ รวมถึงพิจารณาคุณค่าทางโภชนาการก่อนซื้อทุกครั้ง

                  ที่สำคัญควรเก็บรักษาไม่ดี อาจทำให้กระป๋องเกิดสนิม ซึ่งเป็นช่องทางให้เชื้อโรคและ แบคทีเรียเข้าสู่กระป๋องได้ โดยเฉพาะแบคทีเรียคลอสติเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) ที่เติบโตในที่ไร้ออกซิเจน หากกินเข้าไปอาจส่งผลให้ปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน ตามัว จุกแน่นหน้าอก หายใจลำบาก แขนขาอ่อนแรง และเป็นอัมพาตได้ หากไม่รีบไป พบแพทย์แต่เนิ่น ๆ ก็อาจทาให้เป็นอันตรายถึงชีวิตได้

                  8 ลักษณะ อาหารกระป๋องที่ไม่ควรบริโภค

1. กระป๋องบุบบี้หรือโป่งพองและเป็นสนิม
2. ฝากระป๋องไม่ควรยุบหรือพองออก
3. เมื่อเขย่าจะมีเสียงกระฉอกของน้ำกับอากาศ
4. เปิดกระป๋องแล้วมีอากาศ(ลม) พุ่งออกมาจากภายใน
5. เปิดแล้ว ได้กลิ่นบูดเน่าหรือกลิ่นผิดแปลกไปจากเดิม
6. เมื่อเทอาหารออก เห็นสนิมหรือรอยถลอกในกระป๋อง
7. อาหารที่ผลิตมานานมากหรือหมดอายุแล้ว
8. ไม่มีการแสดงสาระสำคัญของฉลาก เช่น เลขสารบบอาหาร วันเดือนปีที่ควรบริโภคก่อน ชื่อและที่ตั้งผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า เป็นต้น

                  กินอาหารกระป๋องให้ได้ประโยชน์สูงสุด

                  ลองทำเมนูใหม่ ๆ โดยนำอาหารกระป๋องมาประกอบอาหารร่วมกับอาหารปรุงสด เช่น ใส่โปรตีนสด อย่างปลา หมู ไก่สด หรือผักที่ชอบลงไปเพิ่มเติมเพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วนและเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ

                  อย่างไรก็ตามสำหรับคนรักสุขภาพ อาหารกระป๋องควรพิจารณาคุณค่าทางโภชนาการก่อนเลือกซื้อเพื่อให้ได้รับสารอาหารที่เหมาะสมต่อวัน นอกจากนี้ควรรับประทานอาหารที่หลากหลาย สังเกตความสมบูรณ์ของภาชนะบรรจุ ดูเลข อย. และวันหมดอายุก่อนรับประทานทุกครั้ง

https://www.thaihealth.or.th/%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b8%8b%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%81/